English
ไทย
นิทานอีสปเรื่อง “สุนัขกับเงา” เป็นนิทานที่ให้ข้อคิดเรื่อง ความโลภและผลเสียของความไม่รู้จักพอ ซึ่งเป็นหลักธรรมะที่สำคัญในพระพุทธศาสนา เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า “โลภมากมักลาภหาย” และการหลงใหลในสิ่งลวงตา อาจทำให้เราสูญเสียสิ่งที่มีอยู่จริง
เนื้อเรื่อง: สุนัขกับเงา
วันหนึ่ง สุนัขตัวหนึ่งคาบเนื้อชิ้นโตในปาก และกำลังเดินข้ามสะพานที่ทอดผ่านแม่น้ำ ขณะที่เดินผ่านกลางสะพาน สุนัขได้มองลงไปในน้ำ
มันเห็นเงาของตัวเองสะท้อนอยู่ในน้ำ แต่ด้วยความโลภ สุนัขเข้าใจผิดคิดว่าเงาที่เห็นคือ สุนัขอีกตัวที่คาบเนื้อชิ้นใหญ่กว่า
สุนัขคิดในใจว่า “ข้าจะต้องได้เนื้อชิ้นนั้นมา!”
ทันใดนั้น ด้วยความโลภ มันจึงอ้าปากเห่าเพื่อต้องการแย่งเนื้อจากเงา แต่เมื่อมันอ้าปาก เนื้อที่คาบอยู่ก็ร่วงลงน้ำและจมหายไปทันที
สุดท้าย สุนัขไม่ได้ทั้งเนื้อที่คาบอยู่ และไม่ได้เนื้อจากเงาในน้ำด้วย
ข้อคิดและคติธรรมจากนิทานสุนัขกับเงา
ความโลภมากทำให้สูญเสียสิ่งที่มีอยู่แล้ว
- สุนัขที่พยายามแย่งเนื้อจากเงาในน้ำกลับทำให้ตัวเองเสียสิ่งที่มีไป
- สอดคล้องกับหลักธรรม “โลภะ” (ความโลภ) ซึ่งเป็นกิเลสที่ทำให้เกิดทุกข์
อย่าหลงเชื่อสิ่งลวงตาหรือมายา
- เงาที่สุนัขเห็นเป็นเพียงภาพสะท้อน แต่ความหลงผิดทำให้มันเสียของจริง
- เป็นบทเรียนที่ตรงกับหลักธรรมะเรื่อง “สัมมาทิฏฐิ” (ความเห็นที่ถูกต้อง) หรือการพิจารณาอย่างมีสติ
พอใจในสิ่งที่มี จะช่วยให้ชีวิตสงบสุข
- หากสุนัขพอใจในเนื้อที่มันมีอยู่แล้ว ก็จะไม่สูญเสียอะไร
- เป็นคำสอนที่ตรงกับหลัก “สันโดษ” (ความพอใจในสิ่งที่มี) ซึ่งช่วยให้ชีวิตเป็นสุข
สุนัขกับเงากับการนำไปใช้ในชีวิตจริง
การทำธุรกิจและการเงิน – คนที่โลภมากและต้องการผลกำไรเกินตัว อาจลงทุนผิดพลาดจนเสียสิ่งที่เคยมี ความสัมพันธ์และครอบครัว – คนที่ไม่พอใจในคู่ครองของตน อาจละเลยสิ่งที่มีและสูญเสียความรักที่แท้จริง การใช้ชีวิตทั่วไป – คนที่ไม่พอใจกับชีวิตปัจจุบัน อาจพยายามไขว่คว้าสิ่งที่เป็นมายา จนทำให้ชีวิตตกต่ำ
นิทานสุนัขกับเงา เป็นเรื่องราวที่ให้ข้อคิดเรื่อง ความโลภและการพอใจในสิ่งที่มี เพราะ หากเราไม่รู้จักพอ และหลงไปกับสิ่งลวงตา อาจทำให้เราสูญเสียสิ่งที่มีอยู่จริง
หากเรานำหลักคำสอนจากนิทานเรื่องนี้ไปใช้ เราจะเป็นคนที่รู้จักพอ มองสิ่งต่าง ๆ อย่างมีสติ และไม่หลงใหลในสิ่งลวงตา