นิทานอีสปเรื่อง ม้ากับลา ถ่ายทอดข้อคิดธรรมะเรื่องเมตตากรุณา สอนให้รู้จักช่วยเหลือและเห็นใจผู้อื่น เพราะความไม่เอื้อเฟื้ออาจย้อนกลับมาทำให้เราต้องลำบากเอง
เนื้อเรื่อง ม้ากับลา
ครั้งหนึ่งมีพ่อค้าคนหนึ่งที่เลี้ยงสัตว์ไว้สองตัว คือม้าและลา วันหนึ่งเขานำม้าและลาออกเดินทางพร้อมบรรทุกของไปขายที่เมืองไกล ลาถูกบรรทุกของหนักมากจนเดินไปอย่างเชื่องช้า ในขณะที่ม้ามีของบรรทุกเพียงเล็กน้อย
ระหว่างทาง ลาเหนื่อยล้าอย่างมากจึงขอร้องม้าว่า
“ช่วยแบ่งของบางส่วนจากข้าหน่อยเถิด มิฉะนั้นข้าอาจไม่ไหวแล้ว”
แต่ม้ากลับไม่ยอมช่วย และตอบว่า
“ของที่เจ้าแบกก็เป็นของเจ้า ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”
ไม่นาน ลาก็หมดแรงและล้มลงสิ้นใจ พ่อค้าจึงย้ายสัมภาระทั้งหมดที่ลาแบกไปวางบนหลังม้า คราวนี้ม้าจึงต้องแบกของที่หนักยิ่งกว่าของลาตั้งแต่แรกเสียอีก
ข้อคิดธรรมะ ม้ากับลา
นิทานอีสปเรื่อง ม้ากับลา สอนให้เข้าใจถึงหลัก เมตตากรุณา คือการมีใจเอื้อเฟื้อและช่วยเหลือกัน เมื่อเราแบ่งเบาภาระของผู้อื่นเล็กน้อย ไม่เพียงทำให้เขารอดพ้นความทุกข์ แต่ยังช่วยลดภาระที่อาจกลับมาตกอยู่ที่ตัวเราในภายหลัง
การนำไปใช้ในชีวิตจริง
- การทำงาน: การช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานแม้เพียงเล็กน้อยจะทำให้ทีมเดินหน้าได้พร้อมกัน หากละเลยอาจทำให้ภาระหนักกลับมาตกที่เราเอง
- การเรียน: การแบ่งปันความรู้และช่วยเหลือเพื่อนที่เรียนช้ากว่า จะทำให้บรรยากาศการเรียนราบรื่นและทุกคนก้าวหน้าไปด้วยกัน
- การใช้ชีวิต: การเห็นอกเห็นใจและช่วยเหลือเพื่อนบ้านหรือคนรอบข้าง ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี และเมื่อถึงคราวที่เราลำบาก ก็จะมีคนพร้อมช่วยเหลือเช่นกัน
- การปฏิบัติธรรม: เมตตากรุณาเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข และเป็นบารมีที่นำไปสู่ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม
สรุปม้ากับลา
นิทานเรื่อง ม้ากับลา เตือนใจว่า การไม่ช่วยเหลือผู้อื่นอาจทำให้เราต้องเผชิญกับภาระหนักยิ่งกว่าเดิม การมีเมตตา กรุณา และแบ่งปันกันเล็กน้อย เป็นสิ่งที่ทำให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบและราบรื่น










